ระบบเครือข่าย Smartmesh ดีอย่างไร?

เมื่อเราคิดถึงการสือสารไร้สาย เรามักจะนึกถึงปัญหาของการใช้งาน ส่งข้อมูลได้ไม่ต่อเนื่อง เกิดความติดขัด เนื่องจากการส่งข้อมูลแบบไร้สายเป็นการส่งข้อมูลผ่านคลื่นความถี่ ซึ่งเป็นสิ่งที่เรามองไม่เห็น ในบริเวณที่เราใช้งาน อาจจะมีอุปกรณ์อื่นๆใช้งานความถี่เดียวกับเราอยู่ หรือมีอุปกรณ์บางประเภทปล่อยสัญญาณรบกวน ทำให้เราไม่สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง การสื่อสารไร้สายที่ต้องการเสถียรภาพสูง จึงจำเป็นต้องมีการจัดการที่ดี มาดูกันว่า ระบบ Smartmesh network จาก Analog Device ดีอย่างไร ทางแอเรียลถึงได้เลือกใช้เทคโนโลยีนี้ มาเป็นช่องทางในการส่งข้อมูล Sensor ต่างๆในระบบ IoT

Smart mesh wireless for tough industrial IoT Application

ระบบเครือข่ายเซ็นเซอร์ไร้สาย SmartMesh® เป็นชิป ที่ผ่านการพัฒนามาทั้ง ซอฟท์แวร์และ chipset ให้เหมาะกับเซ็นเซอร์ที่สามารถสื่อสารในสภาพแวดล้อมทางอุตสาหกรรมของ Internet of Things (IoT)

วีดิโอสาธิตการใช้งานในสภาพแวดล้อมจริงในอุตสาหกรรม ที่สามารถส่งข้อมูลได้มีเสถียรภาพสูง มากกว่า 99.999%

ระบบ Smartmesh ประกอบไปด้วยสองส่วนหลักๆคือ

  • Smartmesh Embedded Manager: เป็นตัวควบคุมการทำงานของระบบเครือข่ายให้ทำงานได้อย่างมีเสถียรภาพ มีจังหวะการทำงานที่สอดคล้องกันทั้งเครือข่าย และ รักษาเสถียรภาพการทำงานให้มีความทนต่อสัญญาณรบกวน ในสภาพแวดล้อมที่โหดร้าย
  • Smartmesh Mote: เป็นอุปกรณ์ลูกข่าย ที่สามารถทำหน้าที่ ส่งข้อมูลจาก sensor ไปยัง manager และยังสามารถเป็นช่องทางการส่งให้กับ mote ตัวอื่นๆที่อยู่ในเครือข่าย เพื่อเพิ่มเส้นทางสำหรับส่งข้อมูล และยังมีการรายงานคุณภาพของช่องสัญญาณไปยัง manager เพื่อให้ manager นำไปคำนวนหาเส้นทาง ที่ optimize ทั้งในเรื่อง คุณภาพ และการจัดการพลังงาน
  • Dynamic Network Optimization

เครือข่าย SmartMesh รักษาโปรไฟล์ของสภาพแวดล้อม RF รอบ ๆ เครือข่ายทั้งหมดด้วยการสำรวจไซต์อัตโนมัติทุกครั้งที่ติดตามสถิติประสิทธิภาพที่เกี่ยวข้องและส่งสถิติเหล่านี้ไปยัง Manager ในแพ็คเก็ตที่เรียกว่ารายงานสุขภาพของเครือข่ายเป็นระยะ Network managerใช้ข้อมูลนี้เพื่อปรับประสิทธิภาพเครือข่ายให้เหมาะสมเพื่อประโยชน์ดังนี้

  • แก้ไขเส้นทางส่งข้อมูลที่ซ้ำซ้อน และสร้างเส้นทางสำรองในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขของสัญญาณ RF
  • ลดเวลาในการส่งข้อมูล โดยปรับการกำหนดเส้นทางระหว่าง mote
  • ลด Traffic โดยปรับเส้นทางให้เหมาะสมด้วยประสิทธิภาพการส่งข้อมูล
    และ ลดการใช้พลังงานโดยรวม