NB IoT คืออะไร? และสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างไรบ้าง?

จากบทความก่อนหน้านี้ Internet of Thing กำลังเริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น ทำให้มนุษย์เราสามารถสั่งการหรือควบคุมอุปกรณ์ต่าง ๆ จากที่ไหนก็ได้ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็น เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน, รถยนต์ และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยมีสมาร์ทโฟน หรือคอมพิวเตอร์เป็นตัวกลางใน การควบคุมและสั่งการอุปกรณ์ต่าง ๆ เหล่านี้ สำหรับเทคโนโลยี 3G และ 4G LTE ในปัจจุบัน ถูกออกแบบมาให้รองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ทำให้ต้องใช้พลังงานมาก และกินทรัพยากรไปพอสมควร แต่สำหรับอุปกรณ์ประเภท IoT การทำงานส่วนใหญ่ก็เพียงแค่รับคำสั่ง ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงถึงขนาดนั้น ทำให้มีมาตรฐานใหม่ของการเชื่อมต่ออุปกรณ์ประเภท IoT ที่เรียกว่า NB-IoT ซึ่งใช้พลังงานต่ำ แต่มีความสามารถในการทะลุทะลวงสูง

NB-IoT ย่อมาจาก Narrowband Internet of Things เป็นเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนามาเพื่อให้อุปกรณ์ต่างๆ สามารถเชื่อมต่อเข้าหากันได้เป็นมาตรฐานระบบโครงข่ายที่ใช้พลังงานต่ำ NB-IoT จึงเหมาะมากกับอุปกรณ์ IoT ที่มีขนาดเล็ก ใช้พลังงานน้อย และไม่ได้ต้องการใช้อินเทอร์เน็ตที่แรงมาก

ข้อดีของ NB-IoT คือ

  • ใช้พลังงานไฟฟ้าต่ำ ส่งข้อมูล uplink ในขนาดที่เหมาะสม จึงช่วยทำให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่ของอุปกรณ์ IoT อยู่ได้นาน
  • รัศมีครอบคลุมของเครือข่ายต่อสถานีฐาน กระจายได้มากกว่า 10 ก.ม. รวมถึงในตัวอาคารก็ยังรับสัญญาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • สามารถพัฒนาเครือข่ายให้เปิดบริการ IoT ได้อย่างรวดเร็ว เพราะออกแบบอุปกรณ์ให้ใช้ร่วมกับ โครงข่าย 4G ในปัจจุบันได้
  • ใช้ความเร็วอินเทอร์เน็ตน้อย ทำให้ประหยัด Bandwidth
  • สามารถใช้ได้ทั้งในอาคาร และ นอกอาคาร

NB-IoT ถูกพัฒนามาเพื่อให้อุปกรณ์ต่างๆ สามารถเชื่อมต่อเข้าหากันได้โดยผ่านโครงข่ายของสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ทำให้อุปกรณ์ต่างๆ เชื่อมต่อเข้าหากันได้โดยใช้พลังงานที่ต่ำและข้อมูลที่ส่งหากันก็ไม่ต้องเยอะ แม้จะอยู่ในจุดที่ไกลกันก็ยังคุยกันได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่อผ่านสายให้ยุ่งยาก เพียงแค่มีซิม (SIM) ติดตั้งในอุปกรณ์นั้นๆ ก็ทำให้เชื่อมต่อและคุยกันได้แล้ว

บริษัท แอเรียล คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด ได้ประยุกต์ใช้ NB-IoT มาใช้ในการติดตามอุณหภูมิทั้ง โดยนำเซ็นเซอร์มาติดเข้ากับถังเก็บความเย็นที่ใช้ขนส่งเวชภัณฑ์หรือผลิตภัณฑ์แช่แข็ง โดยอุปกรณ์มีการรับ – ส่งข้อมูลผ่านเทคโนโลยี NB-IoT ข้อมูลจะถูกบันทึกและประมวลผลบน Cloud system ดังนั้นข้อมูลจึงเป็นข้อมูลแบบ Real-time ระบบมีการนำมาพัฒนาให้สามารถแจ้งเตือนค่าของอุณหภูมิและความชื้นผ่านช่องทาง LINE Application ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เข้าถึงได้ง่ายและไม่ก่อให้เกิดความยุ่งยากต่อการใช้งาน

บทความนี้เกี่ยวข้องกับ Solution Cold condition monitoring for good health

Solution Cold condition monitoring for good health

 นี่เป็นเพียงเคสหนึ่งที่ยกตัวอย่างมาให้ทุกคนดู นอกจากนี้ยังสามารถนำมาใช้กับเรื่องของการดูแลสุขภาพ การทำเกษตรแบบใหม่ Smart Farming Smart City หรือระบบมิเตอร์น้ำประปา-ไฟฟ้าอัจฉริยะ ที่ให้เราดูการใช้น้ำประปา-ไฟฟ้าแบบ Real Time ผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือได้เลย เป็นต้น