
จากสถิติ ในปี 2560 ไทยติดอันดับหนึ่งประเทศที่มีอุบัติเหตุบนท้องถนนมากที่สุดในโลก สาเหตุหลักๆก็มาจากพฤติกรรมของผู้ใช้รถ ไม่ว่าจะเป็นขับรถเร็ว ไม่มีสมาธิในการขับ หรือแม้แต่ขับรถนานจนเหนื่อยแล้วหลับใน หลายคนมักจะมองข้ามอาการง่วงขณะขับรถ เพราะคิดว่าสามารถควบคุมอาการง่วงที่เกิดขึ้นได้ ซึ่ง “อาการหลับใน” แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่สามารถก่อให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้
สัญญาณเตือนว่าเรา “หลับใน”
การขับรถในขณะง่วง อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุและทำให้ผู้ขับรวมถึงผู้โดยสารถึงแก่ชีวิตได้ แม้ว่าอาการหลับในจะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ก็นานพอที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ดังนั้นเราจึงควรตระหนักรู้ถึงสัญญาณเตือนเหล่านี้ เพื่อที่จะได้แวะพักผ่อนเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่
1.หาวบ่อยและต่อเนื่อง
2.กระพริบตาถี่ ๆ ลืมตาไม่ขึ้น
3.มองข้ามสัญญาณไฟและป้ายจราจร
4.ใจลอยไม่มีสมาธิ
5.รู้สึกหนักศีรษะ หงุดหงิด กระวนกระวาย
6.ขับรถส่ายไปมาหรือออกนอกเส้นทาง
7.จำไม่ได้ว่าขับรถผ่านอะไรมาในช่วง 2-3 กิโลเมตรที่ผ่านมา
“หลับใน” ป้องกันได้อย่างไร?
1.นอนพักผ่อนอย่างเพียงพอ 7-9 ชั่วโมง อย่างน้อย 2 คืนก่อนวันเดินทาง
2.ทานอาหารแต่พอดี อย่ากินอิ่มจนเกินไป เพราะจะทำให้ง่วงได้
3.หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
4.ก่อนเดินทางไม่ควรกินยาที่มีฤทธิ์ทำให้ง่วงซึม
5.จิบน้ำบ่อย ๆ อย่าให้ขาดน้ำ เพราะการขาดน้ำจะทำให้อ่อนเพลียและเหนื่อยล้าง่าย
6.งดดื่มกาแฟ น้ำอัดลม ชา โกโก้ เครื่องดื่มชูกำลัง ก่อนเดินทาง 2-3 วัน เพราะอาหารเหล่านี้มีคาเฟอีนที่ทำให้นอนไม่หลับสนิท
7. จอดรถพักทุก 150 กิโลเมตร เพื่อให้ร่างกายไม่เมื่อยล้าเกินไป
8. ติดตั้ง JC400-D กล้องสำหรับตรวจจับใบหน้าคนขับ
บันทึกภาพ 360 องศา และใช้อัลกอริทึมตรวจจับใบหน้าและดวงตาเพื่อวัดระดับการปิดของเปลือกตาและการเคลื่อนไหวของศีรษะ แล้ววิเคราะห์ว่าคนขับรถหลับในหรือละสายตาหรือไม่ ถ้าพบว่าใช่ ระบบจะใช้เสียงเตือนเพื่อให้คนขับรู้สึกตัว กลับมามีสติในการขับขี่ เหมาะสำหรับคนทั่วไปที่ต้องขับรถทางไกล หรือเจอภาวะหลับในอยู่บ่อยๆ