ใช้รถยนต์อย่างไร ให้ห่างไกลจาก Covid-19

เพียงแค่ไม่กี่สัปดาห์โรคปอดอักเสบจากไวรัสโคโรน่า (Covid19) กำลังระบาดกระจายไปทั่วทั้งโลก รวมทั้งในประเทศไทยเองถึงแม้ว่าจะก้ำกึ่งอยู่ในระดับ 2กับ3 ยังไม่ถึงขั้นระบาดกระจายไปต่างจังหวัดมากนัก แต่ข่าวล่าสุดวันที่23มี..63 ก็พบผู้ติดเชื้อนี้แบบก้าวกระโดด  รวม721ราย เตรียมเข้าสู่ระยะ 3 โดยเร็ว ในฐานะที่Aerial Communication เป็นผู้ผลิตGPS TRACKING ให้กับรถประเภทต่างๆ จึงขอแนะนำการใช้งานรถยนต์ ว่าควรปฏิบัติตัวอย่างไร ให้ห่างไกลจากการแพร่กระจายของโรค Covid19 มาฝากกันค่ะ

พกแอลกอฮอล์ 70% ติดรถไว้ตลอดเวลา
ภายในตัวรถ มีสิ่งที่มือเราต้องสัมผัสอยู่ตลอดเวลาหลายอย่าง ทั้งพวงมาลัย, หัวเกียร์, ก้านไฟแลี้ยว, ก้านไฟหน้า, ประตูรถ หรือแม้กระทั่งหน้าจอกลางสำหรับเปิดแอร์หรือเครื่องเสียง  ต้องทำความสะอาดอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ดีที่สุดคือการทำความสะอาดก่อนเดินทางและหลังจากเดินทางเสร็จ เพื่อขจัดไวรัสที่อาจจะมาจากการจับของเราจากภายนอก เข้ามาสู่ภายในตัวรถได้ ดังนั้นเราจึงต้องมีแอลกอฮอล์ 70%-95% ติดรถเอาไว้อยู่เสมอ แนะนำให้ใส่เป็นขวดสเปรย์แบบฟ็อกกี้ เพราะจะประหยัดและสะดวกมากกว่าการใช้แบบเทจากขวดโดยตรง ฉีดลงในจุดเสี่ยงที่มือเราสัมผัสได้ แล้วเช็ดด้วยผ้าสะอาดหรือกระดาษทำความสะอาดแบบแห้ง เมื่อเช็ดเสร็จแล้วให้นำผ้าหรือกระดาษนั้น ใส่ถุงแล้วทำการทิ้งที่นอกรถทันที ไม่แนะนำให้เก็บเอาไว้ในรถ แถมยังเอามาฉีดใส่บัตรจอดรถ ทำความสะอาดก่อนเก็บเข้ากระเป๋าได้อีกด้วย

 

 

ก่อนขึ้นรถ ล้างมือทุกครั้ง
ใน 1 วันเราต้องสัมผัสสิ่งของต่าง ๆ โดยที่เรารู้และไม่รู้ตัวหลายพันครั้ง โดยเฉพาะการสัมผัสตัวเอง เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่า มือที่เราไปจับสิ่งของนั้น จะมีไวรัสโคโรน่าติดมือเรามาหรือไม่ ดังนั้นเพื่อตัดวงจรไวรัสไม่ให้เข้ามาบนรถเราได้ การล้างมือก่อนขึ้นรถทุกครั้ง จะช่วยลดการนำพาไวรัสมาขึ้นรถยนต์ของเราได้ จะใช้เจลล้างมือ, ล้างด้วยน้ำ ฟอกด้วยสบู่ หรือจะใช้ แอลกอฮอล์ 70%

 

หลีกเลี่ยงการเดินทางโดยรถสาธารณะ / เดินทางร่วมกับบุคคลอื่น
ในสถาณการณ์แบบนี้ไม่ควรใช้รถสาธารณะแต่หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็ให้เตรียมความพร้อมให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นหน้ากากอนามัย,เจลแอลกอฮอล์70% หรือจะเลือกมาใช้บริการพี่วินมอเตอร์ไซค์ก็ได้ แต่สำหรับรถยนต์ส่วนตัวนั้น  เข้าใจดีว่าบางทีก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ ให้พึงระลึกไว้เสมอใครก็ตามที่ไม่ได้เป็นสมาชิกครอบครัวเรา พยายามหลีกเลี่ยงการเดินทางด้วยกันเป็นดีที่สุด เพราะอากาศภายในตัวรถเป็นแบบหมุนเวียน มีโอกาสติดต่อได้ง่ายมากขึ้น ดังนั้นช่วงนี้ปฏิเสธได้ ควรปฏิเสธค่ะ บอกตรง ๆ เลยก็ได้ว่ากลัวจะติด เพราะไม่แน่ใจว่าตัวเองติดอยู่ด้วยหรือเปล่า

 

ซื้อของมา เอาไว้ท้ายรถ
ดูอาจจะไม่ค่อยเกี่ยวเท่าไหร่ เพราะถ้าเชื้อติดมาที่ถุงหรือของที่เราซื้อมา มันก็ติดอยู่บนถุงนั้นอยู่ดี แต่ถ้าเราหลีกเลี่ยงโดยเอาสิ่งของทุกอย่างที่เราซื้อมาจากด้านนอกตัวรถ ไปใส่ไว้ที่ท้ายรถแทน ไม่เอามาวางไว้เบาะหลังหรือเบาะนั่งข้างตัว มันจะช่วยลดโอกาสในการสัมผัสจากมือเราเมื่อนั่งอยู่ในรถ จากนั้นก่อนเข้าบ้าน ค่อยยกออกมาทำความสะอาดทุกชิ้น ก็จะลดโอกาสเสี่ยงได้

 

ลดการซื้อของจากคนขายตามสี่แยก
จริง ๆ แล้วการขายของกันตามสี่แยกไฟแดง มันเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายอยู่แล้ว แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันก็ยังเกิดขึ้นอยู่ ทั้งขายพวงมาลัย, โดนัท, กล้วยแขก เป็นต้น บางทีก็อดไม่ได้ที่จะขอซื้อมาเสียหน่อย แต่ช่วงนี้เราไม่รู้หรอกว่าใครจะเป็นหรือไม่เป็น Covid19 ยิ่งคนขายแบบนี้ มักเจอประเภทชอบยื่นหน้ามาใกล้ ๆ เราอยู่เป็นประจำ หากน้ำลายกระเด็นเข้ามาในรถ หรือมีละอองฝอยเข้ามาในตัวรถ แล้วมาฟุ้งวนอยูในห้องโดยสารเรา ทีนี้ล่ะบันเทิงแน่นอน

 

อยู่ในรถ ไม่ต้องใส่หน้ากากอนามัยก็ได้
สิ่งที่กระทรวงสาธารณะสุขแนะนำเสมอก็คือ หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังจุดที่มีผู้คนหนาแน่น ห่างจากคนอื่น 2 เมตรเป็นอย่างน้อย ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ ต้องใส่หน้ากากอนามัย แต่การเดินทางบนรถยนต์ส่วนตัวนั้น ช่วงนี้ก็ควรมีแต่เราและสมาชิกในครอบครัวเท่านั้น ถ้าจะติดก็คงหลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว (ยกเว้นใครคนใดคนหนึ่งไปอยู่ในเงื่อนไขเสี่ยงติดมาจากเหตุผลที่มีกำหนดเอาไว้ ก็ควรแยกกันอยู่แล้ว) ดังนั้นไม่จำเป็นต้องใส่หน้ากากอนามัย เปิดหน้ารับอากาศเต็ม ๆ ได้เลย

 

ใช้ Easy Pass ขึ้นทางด่วน
เวลาขึ้นทางด่วน แน่นอนว่าเราจะต้องเจอกับพนักงานทางด่วน ที่จะยื่นมือมารับเงินแล้วก็ส่งเงินทอนหรือใบเสร็จรับเงินกลับมาให้เรา แต่เพื่อตัดวงจรการพบปะระยะใกล้กับบุคคลอื่น การเลือกใช้ Easy Pass เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ไม่ต้องพบปะกับใคร (เจอครั้งเดียวตอนทำเรื่องขอ) ไม่ต้องรอคิวนาน วิ่งผ่านได้เลย เติมเงินผ่านระบบ Online ก็ได้ สะดวกสบาย

Credit : www.autodeft.com